บทความนั้นมีมากมายหลากหลายรสชาติ และเมื่อต้องเลือกรูปแบบบทความที่เหมาะสมสำหรับหน้าพรีแลนเดอร์ เราก็มีตัวเลือกหลายแบบมาให้คุณเลือก แต่ละแบบมีโครงสร้าง จุดมุ่งหมาย และเทคนิคในการเขียนเฉพาะเป็นของตัวเอง
การแก้ปัญหา
“คุณอายเรื่องปัญหารังแครึเปล่า แชมพูนี้จะออกฤทธิ์ตั้งแต่การสระครั้งแรก ช่วยคืนความมั่นใจให้กับคุณ” “ลูก ๆ ของคุณกลับมาบ้านพร้อมกับคราบหญ้าที่ติดฝังแน่นรึเปล่า สบู่นี้จะช่วยคุณขจัดคราบที่ไม่พึงประสงค์ที่ซักออกยาก เพื่อให้ครอบครัวของกลับมาบ้านอย่างภาคภูมิใจ”
แนวทางนักแก้ปัญหานั้นเป็นแนวทางแบบคลาสสิก บางคนอาจเห็นแย้งว่ามันไม่ต่างจากการโฆษณาเลย อย่างไรก็ตาม ลองนึกดู ถ้าเราพูดว่า “นี่คือผลิตภัณฑ์ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมมันถึงยอดเยี่ยม ซื้อมันสิ” ผู้อ่านจะเข้าใจว่าเป็นการเสนอขาย ซึ่งอาจทำให้พวกเขาตกใจได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องสร้างเนื้อหาที่ช่วยแก้ปัญหาของผู้ชม โดยจะต้องไม่ดูเหมือนว่าเราแค่พยายามขายอะไรบางอย่างให้พวกเขา
แล้วต้องทำอย่างไร การอธิบายคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ว่ามีประโยชน์อย่างไรคือคำตอบ คุณลักษณะคือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตัวอย่างเช่น สมาร์ทโฟนมีแบตเตอรี่ขนาด 4000mAh แล้วไงล่ะ ด้วยแบตเตอรี่นี้คุณจะสามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้ 12 ชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องชาร์จแบต ประโยชน์จะอธิบายว่าคุณลักษณะเฉพาะช่วยแก้ปัญหาในชีวิตจริงได้อย่างไร พวกเขาเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์เข้ากับความต้องการของเรา เช่น ประหยัดเวลา ทำเงินได้มากขึ้น และมีประสิทธิผลมากขึ้นหรือน้อยลง หากเรากำลังพูดถึงการเลื่อนบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเป็นเวลา 12 ชั่วโมงติดต่อกัน
หากต้องการเขียนบทความตามแนวทางนี้ เราต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เข้าใจปัญหาของผู้ชม: พวกเขาเผชิญกับความท้าทายอะไรบ้าง มีอุปสรรคอะไรบ้างที่ขวางทางพวกเขา ความกลัวและความปรารถนาอะไรเป็นตัวกำหนดชีวิตของพวกเขา
- ระบุประโยชน์: ความเฉพาะเจาะจงเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่าการสัญญาว่าจะรักษาให้หายขาด มันจะสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ชมและกำหนดความคาดหวังที่สมจริง ดังนั้นจึงควรมีคำตอบเสมอว่าผู้ชมสามารถคาดหวังอะไรจากผลิตภัณฑ์ได้บ้าง
- สร้างประสบการณ์ทางอารมณ์: สร้างสถานการณ์หรือปรับเปลี่ยนประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันที่ผู้ชมอาจต้องเผชิญ อธิบายการตอบสนองทางอารมณ์ที่ปัญหานั้นสร้าง แสดงวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ไขปัญหา
- ไม่ใช่แค่บอกแต่ต้องแสดงให้เห็น: เช่น ใช้รูปภาพก่อนและหลังเพื่ออธิบายวิธีแก้ปัญหา ไม่เพียงแต่ทำให้เนื้อหามีความน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย
คูมืออธิบายวิธีการ
ในอีกทางหนึ่ง เราสามารถกำหนดเครื่องมือแก้ปัญหาให้เป็นบทความเชิงอธิบายวิธีการได้ บทความที่สอนและใช้หัวเรื่องที่กล่าวถึงวิธีการทำงานหรือวิธีแก้ปัญหาบางอย่าง บทความเหล่านี้จะมีลักษณะเหมือนกับบทความที่เราค้นหาใน Google เมื่อประสบปัญหา
เราสามารถแนะนำผู้ชมของเราผ่านขั้นตอนที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาซึ่งรวมการใช้ผลิตภัณฑ์ของเราด้วย รูปภาพสามารถช่วยให้ผู้อ่านปฏิบัติตามและทำหน้าที่เป็นตัวช่วยอันทรงคุณค่าในการเขียนคำแนะนำได้
เล่าเรื่อง
การเปลี่ยนการนักแก้ปัญหาให้เป็นเรื่องราวเชิงเล่าเรื่องก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่ง การใช้พลังแห่งการเล่าเรื่องช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม มนุษย์เรามักจะติดตามฮีโร่ได้อย่างง่ายดายผ่านปัญหาและแนวทางแก้ไข เพื่อให้การดำเนินเรื่องดำเนินไปได้ เราต้องแน่ใจว่าผู้อ่านมีความเกี่ยวข้องกับตัวละครและสถานการณ์ นี่คือจุดที่โครงสร้างที่เรียบง่ายและชัดเจนมีประโยชน์
- ปัญหา: ในบทนำ เราต้องอธิบายความยากลำบากที่ผลิตภัณฑ์สามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องเอ่ยถึงผลิตภัณฑ์ โดยเชื่อมโยงกับความลำบากและความปรารถนาของผู้ชม การยกตัวอย่างในชีวิตจริงอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบของเรื่องราว ในจุดนี้การเล่าเรื่องที่กระชับแต่โดดเด่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
- ตัวละคร: ต่อไปเราจะแนะนำบุคคลที่ต่อสู้กับปัญหา อย่าอายที่จะอธิบายเรื่องราวเบื้องหลังของพวกเขา ชีวิตคนเรานั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ อย่างไรก็ตาม การมุ่งเน้นไปที่อารมณ์มากเกินไปนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดี เรามุ่งหวังให้ผู้ชมรับรู้ถึงความท้าทายของตนเองผ่านตัวละคร ไม่ใช่ให้มานั่งสงสารพวกเขา
- วิธีแก้ปัญหา: ในตอนนี้ เราจะต้องแนะนำผลิตภัณฑ์ที่สามารถแก้ปัญหาได้ นอกจากนี้เรายังสามารถพูดถึงสถานการณ์ที่ฮีโร่เรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ด้วย ตัวอย่างเช่น "ฉันได้ยินจากเพื่อนร่วมงานตอนที่คุยกันระหว่างพักดื่มกาแฟ"
- ผลลัพธ์: ต่อไปนี้เป็นคำอธิบายว่าผลิตภัณฑ์สามารถพัฒนาชีวิตของตัวละครได้อย่างไร เราสามารถเขียนส่วนนี้เป็นรีวิวสั้น ๆ เพื่ออธิบายว่าพวกเขาชอบผลิตภัณฑ์นี้มากน้อยเพียงใด ควรให้เหตุผลที่เฉพาะเจาะจงแก่ผู้ชมว่าทำไมผลิตภัณฑ์จึงมีประโยชน์
เราสามารถปรับปรุงเรื่องราวได้ด้วยภาพถ่ายก่อนและหลัง ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และความคิดเห็นจากผู้ใช้รายอื่นที่ประสบปัญหาคล้ายกันและสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยผลิตภัณฑ์
รีวิวสินค้า
ผู้คนมักจะพิจารณาสิ้นค้าจากบทวิจารณ์ของผู้เชี่ยวชาญหรือลูกค้าในระดับเดียวกับคำแนะนำจากสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อน การปรับแต่งคำรับรองเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานผลิตภัณฑ์อาจเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพหากตรงกับคุณสมบัติเหล่านี้
- เฉพาะเจาะจง: รีวิวโดยให้เหตุผลที่เจาะจงว่าทำไมผลิตภัณฑ์ถึงดี และทำไมผู้อื่นถึงควรพิจารณาซื้อด้วย ความเฉพาะเจาะจงจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้รีวิวรู้สึกน่าเชื่อถือมากขึ้น ผู้ชมจะต้องเชื่อว่าผู้รีวิวได้รับบริการที่ดี
- เป็นธรรมชาติ: บทวิจารณ์ที่ดีไม่ควรรู้สึกเหมือนเป็นข่าวประชาสัมพันธ์หรือกรณีศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงวลีเชิงประชาสัมพันธ์หรือศัพท์เฉพาะทางเทคนิคจึงเป็นสิ่งจำเป็น ภาษาต้องเป็นธรรมชาติและจริงใจ ใช้โทนแบบสบาย ๆ แต่เขียนอย่างเชี่ยวชาญ
- ให้ประโยชน์: การรีวิวที่ดีจะแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์สามารถพัฒนาชีวิตของใครบางคนได้อย่างไร เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้อื่นสนใจซื้อด้วยเช่นกัน
- การจัดการกับข้อโต้แย้ง: บทวิจารณ์ที่ดีจะคาดการณ์ข้อโต้แย้งไว้ล่วงหน้าและตอบคำถามที่ผูชมสงสัยซึ่งทำให้ผู้คนไม่ซื้อสินค้า
- ไม่เลี่ยนเกินไป: การเน้นที่การขายมักจะถูกผู้ชมสังเกตเห็นได้ง่าย ดังนั้นหากคุณสื่อสารกับผู้ชมเกี่ยวกับวิธีการรักษาผมร่วง ก็ควรให้ความสำคัญกับรายละเอียดจะดีกว่า หากผู้ชมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้มากเพียงพอ พวกเขาก็จะได้ข้อสรุปของตนเอง
บทบรรณาธิการโฆษณา
หากคุณกำลังหาอะไรอ่านฆ่าเวลา คุณจะเลือกอะไรระหว่าง "วิธีปกป้องบ้านของคุณจากขโมย" กับ "เราพนันได้เลยว่าคุณไม่รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลักขโมยในบ้านเหล่านี้" ทั้งสองบทความนั้นเขียนได้ดีและให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ได้สนใจที่จะติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ คุณอาจจะอ่านแบบหลังมากกว่าเพราะฟังดูน่าสนใจกว่า
บทบรรณาธิการโฆษณาเป็นการผสมผสานระหว่าง "การโฆษณา" และ "บทบรรณาธิการ" นอกเหนือจากการให้ข้อมูลอันมีคุณค่าและนำไปสู่การขายแล้ว ยังสร้างความบันเทิงให้กับผู้อ่านอีกด้วย แนวทางนี้ดูเหมือนจะชัดเจน แต่บางครั้งการพูดนั้นง่ายกว่าทำมาก บทบรรณาธิการที่เขียนอย่างดีจำเป็นต้องผสานรวมการนำเสนอการขายเข้ากับเนื้อหาที่น่าดึงดูดได้อย่างราบรื่น
แบรนด์ดัง ๆ มักจะชอบบทบรรณาธิการโฆษณาเพราะเป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดผู้ชมอย่างช้า ๆ มันเหมือนกับการออกเดทกับคนที่คุณชอบ คุณจะไม่คุกเข่าลงข้างนึงและขอแต่งงานเลยในเดตแรก คุณคงจะไม่ได้เจอพวกเขาอีกเลย แต่คุณจะต้องการที่จะเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุก ๆ จากชีวิตของคุณเพื่อสร้างความสนุกสนานและทำให้พวกเขาหลงเสน่ห์แทน
การอธิบาย
บทบรรณาธิการโฆษณาสามารถมีรูปแบบที่จริงจังได้มากขึ้นในรูปแบบของการอธิบาย หน้าที่ของผู้อธิบายคือการสอนผู้ชมเกี่ยวกับหัวข้อใหม่ โดยปกติแล้วจะเกี่ยวข้องกับเนื้อหายอดนิยมที่ทุกคนพูดถึงโดยที่ไม่มีความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตัวอย่างเช่น หากเราโปรโมตแอป AR เราก็สามารถรวมผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้ากับคำอธิบายวิธีการทำงานของ AR ได้เลย
ผู้คนชอบนักอธิบายเพราะพวกเขาเปลี่ยนผู้อ่านที่อยากรู้อยากเห็นให้กลายเป็นผู้รอบรู้ นักอธิบายที่ดีจะช่วยให้ผู้ฟังได้แยกแยะข้อมูลใหม่ ๆ ที่มักแปลกออกไป โดยแบ่งข้อเท็จจริงที่ย่อยไม่ได้ออกเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนซึ่งเขียนด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย
บทความแบบรายการ
บทความแบบรายการคือชุดของบทความขนาดเล็กที่มีโครงสร้างเป็นรายการ แม้ว่าบทความประเภทนี้มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคลิกเบต แต่รายการนั้นเป็นรูปแบบบทความที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบ และเราก็ต้องโทษตัวเองในเรื่องนั้น เพราะสมองของเราชื่นชอบรายการต่าง ๆ เองโดยธรรมชาติ
บทความแบบรายการนั้นมีโครงสร้างที่ชัดเจนซึ่งใช้ความพยายามน้อยกว่าในการทำความเข้าใจ สมองคนเรามักจะถูกดึงดูดด้วยโครงสร้างในลักษณะนี้ หัวเรื่องที่มีตัวเลขดึงดูดสายตาเราในเนื้อหารายวัน นอกจากนี้ การใช้ตัวเลขช่วยให้ผู้อ่านรู้ว่าพวกเขาจะไม่เพียงได้รับข้อมูลเพียงชิ้นเดียวแต่จะได้รับข้อมูลหลาย ๆ อย่างอีกด้วย เห็นว่าหัวเรื่องในทำนอง "12 วิธีในการลดน้ำหนัก" มีคุณค่ามากกว่า "วิธีนี้ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้"
บทความแบบรายการเหมาะกับบมความร้านค้าออนไลน์อย่างยิ่ง หากเราโปรโมตร้านค้าที่ขายอุปกรณ์ เราสามารถใช้หัวเรื่องว่า "15 สมาร์ทโฟนใหม่ที่ขายดีเหมือนกับแพนเค้กในมื้อเช้า" แต่อย่าลืมว่าเราจะต้องอธิบายแต่ละผลิตภัณฑ์และระบุว่าเราสามารถซื้อได้ที่ร้านค้านี้
การโฆษณาแบบเนทีฟเป็นช่องทางสำหรับการคิดค้นและทดสอบแนวทางใหม่ ๆ แต่จำไว้ว่าเนื้อหาของคุณเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปริศนาเท่านั้น วิธีที่คุณกระจายข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณและมีส่วนร่วมกับผู้ชมก็มีความสำคัญเช่นกัน ที่ MGID เราสามารถให้ความช่วยเหลือคุณในการสร้างหน้าพรีแลนเดอร์ได้ ตั้งแต่การระดมความคิดเกี่ยวกับบทความไปจนถึงการโฮสต์หน้าเว็บ และสร้างโฆษณาในเครือข่าย MGID หากคุณไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการตามข้อเสนอของคุณอย่างไรดีถึงจะดีที่สุด และต้องการความช่วยเหลือจากมืออาชีพ อย่าลังเลที่จะติดต่อฝ่ายขายหรือผู้จัดการบัญชีของคุณ