ปี 2024 ได้สิ้นสุดลงแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องทบทวนปีที่ผ่านมา เราหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีสำหรับคุณ! ปีนี้เป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับอุตสาหกรรมโฆษณาด้วยเช่นกัน ด้วยการเติบโตและนวัตกรรมมากมาย เราคาดว่าการใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลของสหรัฐฯจะสูงถึง 298.4 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงปลายปี 2024 เราจะได้รู้ในไม่ช้านี้ว่าคำทำนายนั้นเป็นจริงหรือไม่

เมื่อมองไปข้างหน้า นี่เป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบในการสำรวจสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2025 MGID ได้ติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยให้คุณก้าวนำหน้าอยู่เสมอ ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายข้ามอุปกรณ์ขั้นสูงไปจนถึงแนวทางการโฆษณาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้พร้อมที่จะกำหนดนิยามใหม่ของอุตสาหกรรม และเรากำลังปรับตัวเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

มาดูกันว่าเทรนด์ใดกำลังรอเราอยู่และเราจะรับมือกับเทรนด์เหล่านั้นได้อย่างเต็มที่อย่างไร!

1. การปรับแต่งตามความต้องการที่ได้รับการปรับปรุงด้วย AI กำลังเพิ่มมากขึ้น

ปัญญาประดิษฐ์กำลังปฏิวัติวงการโฆษณา โดยนักการตลาด 69.1% ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของตนแล้ว การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถส่งข้อความที่ปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละรายได้อย่างแม่นยำ ยุคของโฆษณาทั่ว ๆ ไปนั้นหมดไปแล้ว ปัจจุบัน โฆษณาได้รับการออกแบบมาให้สะท้อนถึงความต้องการ พฤติกรรม และบริบทของผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้ง

ตัวอย่างเช่น โฆษณาทางทีวีเชื่อมต่อ (CTV) สามารถนำเสนอแพ็กเกจวันหยุดสำหรับครอบครัวให้ผู้ปกครองได้ชม พร้อมกับโปรโมททริปแบบเดี่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคนโสด โดยทั้งหมดจะอัปเดตทันที ความแม่นยำนี้ไม่เพียงแต่ปรับปรุงการมีส่วนร่วมเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้สูงที่สุดอีกด้วย การวิเคราะห์เชิงทำนาย ซึ่งเป็นความสามารถสำคัญของ AI ยังเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของแคมเปญด้วยการปรับการจัดสรรงบประมาณและการวางแผนระยะยาวให้เหมาะสม ไม่น่าแปลกใจเลยที่นักการตลาด 56% กล่าวว่าบริษัทของตนมีบทบาทสำคัญในการนำ AI มาใช้งาน

ตัวอย่างในการใช้งานจริง

ตัวอย่างในการใช้งานจริงแสดงให้เห็นถึงพลังการเปลี่ยนแปลงของ AI ทาง RedBalloon ใช้ AI เพื่อทดสอบโฆษณา Google 6,500 รูปแบบต่อวัน ทำให้ได้รับผลตอบแทนจากการใช้จ่ายโฆษณา 1,100% ในทำนองเดียวกัน Bayer Australia ใช้ AI สำหรับกำหนดเวลาโฆษณาในช่วงฤดูไข้หวัดใหญ่ ซึ่งช่วยลดต้นทุนได้ 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า AI มอบโซลูชันโฆษณาที่ปรับแต่งได้และมีประสิทธิภาพได้อย่างไร

MGID สร้างความแตกต่างได้อย่างไร

ที่ MGID เรากำลังขยายขอบเขตของการปรับแต่งตามความชอบที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อช่วยให้นักโฆษณาได้รับผลลัพธ์ที่เหนือกว่า เครื่องมือ AI ของเราไม่ได้แค่สร้างโฆษณาที่ดึงดูดใจเท่านั้น แต่ยังตรวจสอบแคมเปญเพื่อดูว่าโฆษณาน่าเบื่อหรือไม่ แนะนำการอัปเดต และเสนอทางเลือกที่สร้างสรรค์ใหม่ ๆ เพื่อให้ประสิทธิภาพยังคงสูงอยู่ ด้วยฟีเจอร์อย่างการคาดการณ์ประสิทธิภาพ และคำแนะนำเชิงรุก MGID ช่วยให้นักโฆษณาสามารถนำเสนอแคมเปญที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้งในขณะที่ยังคงรักษาอัตราการคลิกผ่านและ ROI ที่น่าประทับใจเอาไว้ได้

2. หนีจากเงื้อมมือของแพลตฟอร์มแบบปิด

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Google, Apple และ Meta ยังคงครองตลาดโฆษณาดิจิทัลต่อไป การกินรวบนี้ได้จำกัดวิธีที่ผู้เผยแพร่โฆษณาสามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้การดึงดูดการเข้าชมจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น การค้นหาและโซเชียลมีเดียทำได้ยากขึ้น ตามข้อมูลของ Magna สื่อดิจิทัลมีส่วนแบ่งการตลาด 69% โดย Google, Meta และ Amazon ครองส่วนแบ่งการตลาด 80% ถึง 90% ของค่าใช้จ่ายค่าโฆษณาดิจิทัลในตลาดนอกประเทศจีน

สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา การพึ่งพา "แพลตฟอร์มแบบปิด" ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การรวบรวมและใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่รวบรวมโดยตรงจากแพลตฟอร์มของตนเองผ่านการโต้ตอบของผู้ใช้ กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้เผยแพร่โฆษณาสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้โฆษณาได้อีกด้วย ด้วยการควบคุมข้อมูลของตนเอง ผู้เผยแพร่โฆษณาสามารถปรับปรุงช่องทางการสร้างรายได้และสร้างเสถียรภาพในระยะยาวได้

ตัวอย่างในการดำเนินการ

เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายที่เกิดจากแพลตฟอร์มแบบปิด The New York Times ได้พึ่งพาข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์การโฆษณาของตน ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกจากฐานสมาชิกจำนวนมาก บริษัทจึงสามารถสร้างแคมเปญโฆษณาที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นและลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มภายนอก ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับผู้โฆษณาได้โดยตรงและสร้างกำไรได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ The Guardian ยังได้ลงทุนอย่างหนักในการสร้างความสัมพันธ์แบบบุคคลที่หนึ่งกับผู้อ่าน โดยการสร้างการสมัครสมาชิกระดับพรีเมียมและใช้ประโยชน์จากข้อมูลโดยตรง บริษัทสื่อแห่งนี้ลดการพึ่งพา Google และ Facebook ซึ่งทำให้สามารถเพิ่มรายได้จากโฆษณาผ่านแคมเปญที่ตรงเป้าหมายซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้

MGID สร้างความแตกต่างได้อย่างไร

MGID+ มอบเครื่องมือที่ผู้เผยแพร่โฆษณาต้องการเพื่อเติบโตอย่างอิสระ ตั้งแต่โซลูชันการสร้างรายได้ระดับพรีเมียมไปจนถึงกลยุทธ์การดึงดูดผู้ชมขั้นสูง MGID+ ช่วยให้ผู้เผยแพร่โฆษณาลดการพึ่งพาเว็บไซต์แบบปิดได้ ฟีเจอร์เช่น Campaign Studio คำแนะนำเนื้อหาที่ปรับแต่งได้ และการวิเคราะห์โดยละเอียดช่วยให้ผู้เผยแพร่โฆษณาสามารถฐานขยายผู้ชมและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดขึ้นโดยอิงจากข้อมูล

นอกจากนี้ ปริมาณการเข้าชมของ MGID มากกว่า 95% มาจากความร่วมมือกับผู้เผยแพร่โฆษณาโดยตรง ซึ่งช่วยให้ผู้โฆษณาเข้าถึงพื้นที่โฆษณาคุณภาพสูงได้ในขณะที่ผู้เผยแพร่โฆษณายังคงควบคุมความสัมพันธ์กับผู้ชมของตนได้ ด้วย MGID+ ผู้เผยแพร่โฆษณาจะสามารถสร้างแนวทางที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นสำหรับการโฆษณาดิจิทัล ไม่ว่าเว็บไซต์แบบปิดจะมีอำนาจเหนือกว่าเพียงใด

3. พลังของข้อมูลของบุคคลที่หนึ่ง

เนื่องจากคุกกี้ของบุคคลที่สามที่ถูกยกเลิกและกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น ข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญสำหรับผู้โฆษณา ซึ่งข้อมูลนี้ถูกรวบรวมโดยตรงจากผู้ใช้ผ่านการโต้ตอบกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์ม ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาได้แบบเฉพาะบุคคลและสอดคล้องกับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น การพึ่งพาข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งทำให้ผู้โฆษณาสามารถส่งข้อความที่มีความเกี่ยวข้องอย่างสูงได้ ในขณะที่เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ผู้เผยแพร่โฆษณาสามารถใช้ประวัติการเรียกดูหรือการตั้งค่าการสมัครรับข้อมูลเพื่อแสดงโฆษณาที่ปรับแต่งตามความต้องการ สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่มีความหมายมากขึ้น และขับเคลื่อน ROI ที่ดีขึ้น

ความสำคัญของข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากภูมิทัศน์ของการโฆษณาเริ่มให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าโฆษณาที่ปรับแต่งตามความต้องการและความไว้วางใจของผู้ใช้จะสมดุลกัน

ตัวอย่างในการใช้งานจริง

Amazon พึ่งพาข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งจำนวนมากมาเป็นเวลานานเพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคล โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลจากการซื้อของผู้ใช้ การค้นหา และการตั้งค่า Amazon จึงสามารถนำเสนอโฆษณาที่ตรงเป้าหมายซึ่งตรงกับความต้องการของผู้ซื้อแต่ละราย ช่วยเพิ่มทั้งรายได้จากโฆษณาและความพึงพอใจของลูกค้า

ตัวอย่างที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงมาจาก Spotify ในฐานะผู้ให้บริการสตรีมเพลงที่มีผู้ใช้หลายล้านคน Spotify ใช้ข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งเพื่อนำเสนอโฆษณาที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยอิงตามนิสัยการฟัง ตำแหน่งที่ตั้ง และข้อมูลประชากร แนวทางนี้ช่วยให้ Spotify สร้างฐานผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมมากขึ้นในขณะที่ช่วยให้ผู้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องได้

MGID สร้างความแตกต่างได้อย่างไร

MGID มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลของบุคคลที่หนึ่ง เพื่อสร้างแคมเปญโฆษณาที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคลและให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรก การทำงานโดยตรงกับผู้เผยแพร่โฆษณาทำให้ MGID ได้รับข้อมูลเชิงลึกพิเศษเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้กำหนดเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้นและมีกลยุทธ์โฆษณาที่มีประสิทธิภาพ

ผ่านการผสานรวมกับแพลตฟอร์ม เช่น LiveRamp Connect MGID ช่วยให้นักโฆษณาเปิดใช้งานกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกได้โดยใช้โซลูชัน เช่น Seller Defined Audiences (SDA) และ Unified Identifiers เพื่อให้แน่ใจว่ากำหนดเป้าหมายได้อย่างแม่นยำในขณะที่ยังคงมาตรฐานความเป็นส่วนตัวไว้ นอกจากนี้ Audience Hub ของ MGID ยังช่วยให้นักโฆษณาเปลี่ยนข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำมาใช้ได้ ช่วยเสริมสร้างการเชื่อมต่อระหว่างผู้โฆษณาและกลุ่มเป้าหมายในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโดยรวม

4. นวัตกรรมในการกำหนดเป้าหมายแบบข้ามอุปกรณ์และแบบไฮบริด

เนื่องจากเทคโนโลยียังคงก้าวหน้าต่อไป ขอบเขตระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงเริ่มคลุมเครือมากขึ้นเรื่อย ๆ กลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายแบบไฮบริดที่อยู่ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โฆษณาทีวีเชื่อมต่อ (CTV) และโฆษณาดิจิทัลนอกบ้าน (DOOH) ทำงานร่วมกับอุปกรณ์พกพาและเดสก์ท็อปในปัจจุบัน ทำให้เกิดการเดินทางของลูกค้าที่เป็นหนึ่งเดียว ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้จะเห็นโฆษณาบนทีวี แล้วได้รับข้อเสนอติดตามผลหรือการแจ้งเตือนบนสมาร์ทโฟน

การผสานรวมที่ราบรื่นนี้ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้จากจุดสัมผัสหลายจุด ทำให้จดจำแบรนด์และมีส่วนร่วมมากขึ้น ความสามารถในการแสดงโฆษณาบนหน้าจอต่าง ๆ ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงการปรับแต่งส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการสร้างลูกค้าอีกด้วย ด้วยการกำหนดเป้าหมายแบบข้ามอุปกรณ์และแบบไฮบริด แบรนด์ต่าง ๆ จะสามารถสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่สอดประสานกันและมีผลกระทบมากขึ้น ซึ่งจะขับเคลื่อนประสิทธิภาพการตลาดที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ตัวอย่างในการดำเนินการ

กลยุทธ์การตลาดของ Nike มักจะผสานโฆษณา CTV กับการติดตามผลบนมือถือ หลังจากที่ผู้ใช้รับชมโฆษณา Nike ทางทีวีแล้ว พวกเขาอาจได้รับโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายบนสมาร์ทโฟนสำหรับผลิตภัณฑ์เฉพาะที่พวกเขาได้ดูหรือแสดงความสนใจ ซึ่งช่วยเน้นย้ำข้อความและเพิ่มโอกาสในการสร้างลูกค้า

ในทำนองเดียวกัน Coca-Cola ใช้การกำหนดเป้าหมายแบบผสมผสานเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สำเร็จ ผู้ใช้จะเห็นโฆษณาดิจิทัลกลางแจ้ง (DOOH) ในพื้นที่ที่มีการเข้าชมสูงก่อน จากนั้นจึงได้รับการโปรโมทที่ปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้บนโทรศัพท์ของตน ซึ่งช่วยให้แบรนด์ได้รับการเผยแพร่และมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง

MGID สร้างความแตกต่างได้อย่างไร

ความสามารถในการกำหนดเป้าหมายขั้นสูงของ MGID ช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถนำกลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายแบบข้ามอุปกรณ์และแบบไฮบริดมาใช้ได้อย่างราบรื่น ด้วยแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล MGID ช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถติดตามและดึงดูดผู้ใช้ผ่านหน้าจอต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อความมีความสอดคล้องและเกี่ยวข้องตลอดการเดินทางของลูกค้า

ด้วยเครื่องมืออันแข็งแกร่งสำหรับการแบ่งกลุ่มผู้ชม การกำหนดเป้าหมายโฆษณาซ้ำ และการนำเสนอเนื้อหาที่ปรับแต่งได้ MGID จึงมั่นใจได้ว่าแบรนด์ต่าง ๆ จะสามารถปรับกลยุทธ์ข้ามอุปกรณ์ให้เหมาะสม เพิ่มการมีส่วนร่วม และขับเคลื่อนการแปลงข้อมูลผ่านจุดสัมผัสต่าง ๆ ความสามารถข้ามอุปกรณ์นี้ช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสร้างแคมเปญโฆษณาที่ปรับแต่งได้ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งปรับให้เข้ากับภูมิทัศน์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป

5. เทคโนโลยีโฆษณาสนับสนุนความยั่งยืน

ความยั่งยืนไม่ใช่คำศัพท์เฉพาะอีกต่อไป แต่ถือเป็นแง่มุมสำคัญของธุรกิจยุคใหม่ ในโลกของการโฆษณา ผู้เผยแพร่โฆษณาหันมาใช้การเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางการจัดหา (SPO) มากขึ้นเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากโฆษณาแบบโปรแกรมให้เหลือน้อยที่สุด การลดการใช้ตัวกลางที่ไม่จำเป็นลงจะทำให้ผู้เผยแพร่โฆษณาลดการปล่อยคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับการเรียกโฆษณาที่มากเกินไปและเพิ่มประสิทธิภาพได้

ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้เผยแพร่โฆษณาเป็นพันธมิตรโดยตรงกับผู้โฆษณา ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการขายพื้นที่โฆษณาซ้ำผ่านทางหลายฝ่ายอีกด้วย เนื่องจากผู้บริโภคเรียกร้องให้แบรนด์ต่าง ๆ ปฏิบัติตนอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงไปใช้วิธีการโฆษณาที่ยั่งยืนมากขึ้นนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อทั้งโลกและธุรกิจ

ตัวอย่างในการดำเนินการ

แบรนด์ระดับโลกอย่าง Unilever มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยคาร์บอนและเพิ่งประกาศแผนลดการปล่อยโฆษณาทางดิจิทัล โดยการปรับเส้นทางการจัดหาให้เหมาะสมและเน้นที่ความร่วมมือโดยตรง Unilever จึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กับทำให้แคมเปญมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพมากขึ้น

Nestlé ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลกอีกแบรนด์หนึ่งกำลังดำเนินการเพื่อการโฆษณาที่ยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับ SPO การลดจำนวนตัวกลางในห่วงโซ่อุปทานโฆษณาทำให้บริษัทลดทั้งต้นทุนและการปล่อยคาร์บอนของแคมเปญดิจิทัลได้

MGID สร้างความแตกต่างได้อย่างไร

MGID ยึดมั่นในความยั่งยืนผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางการจัดหา (SPO) โดยรักษาความร่วมมือโดยตรงกับผู้เผยแพร่โฆษณา โดย 95% ของปริมาณการใช้งานที่ขายผ่าน SSP ของ MGID มาจากข้อตกลงโดยตรง ผู้โฆษณาจะหลีกเลี่ยงการขายพื้นที่โฆษณาซ้ำ ซึ่งช่วยลดทั้งค่าธรรมเนียมตัวกลางและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เส้นทางการจัดหาที่มีประสิทธิภาพนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าแคมเปญโฆษณาจะสะอาด มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่ยั่งยืน

แนวทางของ MGID ต่อ SPO ไม่เพียงแต่สนับสนุนระบบนิเวศการโฆษณาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงความพึงพอใจของผู้ซื้อด้วยการให้ความโปร่งใสและการควบคุมสินค้าคงคลังโฆษณาที่มากขึ้น ส่งผลให้ทั้งผู้โฆษณาและผู้เผยแพร่โฆษณาได้รับประโยชน์จากการดำเนินการโฆษณาที่ยั่งยืนและคุ้มทุนมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและผลกำไรของพวกเขา

บทสรุป: มองไปข้างหน้า

เมื่อเรามองไปยังปี 2025 สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ การโฆษณาดิจิทัลจะยิ่งชาญฉลาดและมีพลวัตมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีใหม่ กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และการเน้นที่ความยั่งยืน อุตสาหกรรมกำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว และผู้ที่ปรับตัวได้ก็จะก้าวนำไปข้างหน้า

ที่ MGID เราเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปแล้ว หากคุณพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่อนาคตของการโฆษณา เราพร้อมที่จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ให้มากที่สุด เราจะร่วมกันเปลี่ยนความท้าทายของวันนี้ให้กลายเป็นโอกาสในวันพรุ่งนี้ และก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง!